ตะบูน
| ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Xylocarpus granatum Köenig
|
ชื่อพ้อง :
Carapa granatum (König) Alston, Xylocarpus obovatum (Blume) A. Juss.
วงศ์ :
MELIACEAE
ชื่ออื่น :
กระบูนขาว ตะบูนขาว
ชื่อสามัญ :
Cannonball mangrove, Mangrove sedar
ไม้ต้น ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงได้ถึง 8 เมตร โคนต้นมีพูพอน เป็นแผ่นยาวคดเคี้ยวไปมาและตั้งฉากกับพื้น ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ ใบย่อย 2 คู่ เรียงตรงข้าม รูปรีถึงรูปไข่กลับแกมรูปขอบขนาน กว้าง 4-9 เซนติเมตร ยาว 1.5-5 เซนติเมตร ปลายกลมมน โคนใบสอบเรียว ขอบเรียบ ท้องใบมีขนเล็กน้อย ดอกแบบช่อกระจุก สีเหลืองอมเขียว ออกตามซอกใบ ดอกย่อย 1-3 ดอก มีกลิ่นหอมตอนบ่ายถึงค่ำ กลีบเลี้ยง 4 กลีบ รูปไข่แกมรูปสามเหลี่ยม กลีบดอก 4 กลีบ รูปขอบขนาน ดอกบานเต็มที่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.2 เซนติเมตร ผลแห้งแก่แล้วแตก เปลือกแข็ง สีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม เกือบกลม ขนาดต่าง ๆ กัน เมล็ด รูปพีระมิด จำนวน 4-20 เมล็ด
| สวนหลวง ร.๙ |
ปลูกอยู่บริเวณสวนน้ำ |
| ช่วงออกดอกและติดผล |
ตลอดปี |
| การกระจายพันธุ์ |
ทวีปแอฟริกา มาดากัสการ์ ศรีลังกา อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะริวกิว ฟิจิ ตองกา ปาปัวนิวกีนี ออสเตรเลีย และในไทยพบในภาคกลางและภาคใต้ |
| ประโยชน์ |
ปลูกเป็นไม้ประดับสวน เนื้อไม้ใช้ทำเครื่องเรือน หรือเป็นเชื้อไฟ |
| การขยายพันธุ์ |
เพาะเมล็ด |
ภาพอื่นๆ
แชร์โพสนี้ 
จำนวนผู้เข้าชม
7866